SUM(number1,number2, ...)
number1, number2 .. เป็นจำนวน 1 ถึง 30 จำนวนที่จะถูกบวกเข้าด้วยกัน
หมายเหตุ
· จำนวน ค่าตรรกะ และข้อความที่ใช้แทนจำนวนที่คุณพิมพ์โดยตรงเข้าไปยังรายการของอาร์กิวเมนต์ที่มีการนับ ให้ดูตัวอย่างแรกและตัวอย่างสองด้านล่างถ้าอาร์กิวเมนต์เป็นอาร์เรย์หรือการอ้างอิง มีเฉพาะจำนวนในอาร์เรย์หรือการอ้างอิงนั้นที่มีการนับ เซลล์ว่าง ค่าตรรกะ ข้อความ หรือค่าผิดที่อยู่ในอาร์เรย์หรือการอ้างอิงจะถูกละเลย ให้ดูตัวอย่างที่สามด้านล่างอาร์กิวเมนต์ที่มีค่าความผิดพลาดหรือข้อความที่ไม่สามารถแปลเป็นจำนวนได้เป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด
ตัวอย่าง
หากคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้ในกระดาษคำนวณว่างเปล่าจะทำให้อ่านตัวอย่างได้เข้าใจยิ่งขึ้น
|
|
AVERAGE(number1,number2,...)
number1, number2, ... คืออาร์กิวเมนต์ 1 ถึง 30 อาร์กิวเมนต์ที่เป็นตัวเลขซึ่งคุณต้องการหาค่าเฉลี่ย
ข้อสังเกต
· อาร์กิวเมนต์ต้องเป็นตัวเลขหรือชื่อ อาร์เรย์ หรือการอ้างอิงที่มีตัวเลขอยู่ถ้าอาร์กิวเมนต์อาร์เรย์หรือการอ้างอิงประกอบด้วยข้อความ ค่าตรรกะ หรือเซลล์ว่างเปล่า ค่าเหล่านั้นจะถูกละเว้น แต่เซลล์ที่มีค่าศูนย์จะถูกรวมไว้
ตัวอย่าง
หากคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้ในแผ่นงานว่างเปล่าจะทำให้อ่านตัวอย่างได้เข้าใจยิ่งขึ้น
|
|
COUNT(value1,value2,...)
value1, value2, ... คือ อาร์กิวเมนต์ 1 ถึง 30 อาร์กิวเมนต์ที่สามารถมีหรืออ้างถึงชนิดหลายชนิดที่แตกต่างกันของข้อมูล อย่างไรก็ตาม เพียงตัวเลขเท่านั้นที่ถูกนับ
ข้อสังเกต
· อาร์กิวเมนต์ที่เป็นตัวเลข วันที่ หรือการแสดงตัวเลขในรูปแบบข้อความจะถูกนับ ส่วนอาร์กิวเมนต์ที่เป็นค่าข้อผิดพลาดหรือเป็นข้อความ ซึ่งไม่สามารถแปลเป็นตัวเลขได้จะถูกละเว้นไปถ้าอาร์กิวเมนต์ เป็นอาร์เรย์ หรือการอ้างอิง จะนับเฉพาะตัวเลขในอาร์เรย์ หรือการอ้างอิงนั้นเท่านั้น และจะละเว้นเซลล์ว่าง ค่าตรรกศาสตร์ ข้อความ หรือค่าข้อผิดพลาด ถ้าคุณจำเป็นต้องนับค่าตรรกศาสตร์ ข้อความ หรือค่าข้อผิดพลาด ให้ใช้ฟังก์ชัน COUNTA
ตัวอย่าง
หากคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้ในแผ่นงานว่างเปล่าจะทำให้อ่านตัวอย่างได้เข้าใจยิ่งขึ้น
|
|
COUNTA(ฐานข้อมูล,เขตข้อมูล,เงื่อนไข)
ฐานข้อมูล คือช่วงของเซลล์ที่ประกอบเป็นรายการหรือฐานข้อมูล ฐานข้อมูลเป็นรายการข้อมูลที่สัมพันธ์กัน โดยที่แถวของข้อมูลจะเป็นระเบียน และคอลัมน์จะเป็นเขตข้อมูล แถวแรกของรายการจะประกอบด้วยป้ายข้อความของแต่ละคอลัมน์
เขตข้อมูล ระบุว่ามีการใช้คอลัมน์ใดในฟังก์ชัน ระบุป้ายกำกับคอลัมน์โดยอยู่ในเครื่องหมายอัญประกาศแบบคู่ เช่น "อายุ" หรือ "ผลผลิต" หรือตัวเลข (โดยไม่ต้องมีเครื่องหมายอัญประกาศ) ซึ่งแสดงตำแหน่งของคอลัมน์ภายในรายการ: 1 สำหรับคอลัมน์แรก 2 สำหรับคอลัมน์ที่สอง เป็นต้น
เงื่อนไข เป็นช่วงของเซลล์ข้อมูลที่มีเงื่อนไขที่คุณระบุ คุณสามารถใช้ช่วงสำหรับอาร์กิวเมนต์ของเงื่อนไขใดก็ได้ ตราบเท่าที่มีป้ายข้อความของคอลัมน์อย่างน้อยหนึ่งรายการ และข้อมูลอย่างน้อยหนึ่งเซลล์ที่ด้านล่างของป้ายข้อความนั้น ซึ่งคุณได้ระบุเงื่อนไขสำหรับคอลัมน์
หมายเหตุ
· คุณสามารถใช้ช่วงสำหรับอาร์กิวเมนต์ของเงื่อนไขใดก็ได้ ตราบเท่าที่มีป้ายข้อความของคอลัมน์อย่างน้อยหนึ่งรายการ และข้อมูลอย่างน้อยหนึ่งเซลล์ที่ด้านล่างของป้ายข้อความนั้นสำหรับระบุเงื่อนไขตัวอย่างเช่น หากช่วง G1:G2 มีป้ายข้อความคอลัมน์ "รายได้" ใน G1 และจำนวนเงิน $10,000 ใน G2 คุณสามารถกำหนดช่วงเป็น MatchIncome และใช้ชื่อนั้นเป็นอาร์กิวเมนต์ของเงื่อนไขในฟังก์ชันของฐานข้อมูลแม้ว่าช่วงของเงื่อนไขจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ได้ของแผ่นงาน โปรดอย่าวางช่วงของเงื่อนไขที่ด้านล่างรายการ ถ้าคุณเพิ่มข้อมูลในรายการโดยใช้คำสั่ง ฟอร์ม ที่เมนู ข้อมูลระบบจะเพิ่มข้อมูลใหม่ในแถวแรกซึ่งอยู่ใต้รายการ หากแถวที่อยู่ใต้รายการนั้นมีข้อมูลอยู่ Microsoft Excel จะเพิ่มข้อมูลใหม่ไม่ได้โปรดตรวจสอบว่าช่วงของเงื่อนไขนั้นไม่ซ้อนทับกับรายการในการดำเนินการกับคอลัมน์ทั้งหมดในฐานข้อมูล ให้ใส่บรรทัดว่างเปล่าที่ด้านล่างของป้ายข้อความคอลัมน์ในช่วงของเกณฑ์
ตัวอย่าง
|
|
COUNTIF(range,criteria)
range คือช่วงของเซลล์ที่คุณต้องการนับจำนวนเซลล์
criteria คือเงื่อนไขซึ่งอยู่ในรูปแบบตัวเลข นิพจน์ การอ้างอิงเซลล์ หรือข้อความ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดว่าเซลล์ใดจะถูกนับ ตัวอย่างเช่น เงื่อนไขอาจจะแสดงเป็น 32, "32", ">32", "apples" หรือ B4
หมายเหตุ
Microsoft Excel มีฟังก์ชันเพิ่มเติมที่สามารถนำมาใช้วิเคราะห์ข้อมูลของคุณตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่งเมื่อต้องการคำนวณผลรวมโดยมีเงื่อนไขเป็นสายอักขระข้อความหรือตัวเลขที่อยู่ภายในช่วง ให้ใช้ฟังก์ชันแผ่นงาน SUMIFเมื่อต้องการให้สูตรส่งกลับค่าใดค่าหนึ่งในสองค่าที่ตรงตามเงื่อนไข เช่น โบนัสในการขายซึ่งขึ้นกับยอดขายที่ระบุ ก็ให้ใช้ฟังก์ชันแผ่นงาน IFเมื่อต้องการนับจำนวนเซลล์ที่ว่างหรือเซลล์ที่ไม่ว่าง ให้ใช้ฟังก์ชัน COUNTA และ COUNTBLANK
ตัวอย่างที่ 1 สูตรโดยทั่วไปสำหรับ COUNTIF
ตัวอย่างอาจเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ถ้าคัดลอกไปใส่ไว้ในแผ่นงานเปล่า
|
|
ตัวอย่างที่ 2 สูตร COUNTIF ที่ใช้สัญลักษณ์ตัวแทนและพิจารณาค่าที่ว่างเปล่า
ตัวอย่างอาจเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ถ้าคัดลอกไปใส่ไว้ในแผ่นงานเปล่า
|
|
หมายเหตุ เมื่อต้องการดูตัวเลขในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ ให้เลือกเซลล์ แล้วคลิก เซลล์ บนเมนู รูปแบบ แล้วคลิกแท็บ ตัวเลข จากนั้นคลิก เปอร์เซ็นต์ ในกล่อง ประเภท
IF(logical_test,value_if_true,value_if_false)
logical_test คือค่าหรือนิพจน์ใดๆ ที่สามารถถูกประเมินเป็น TRUE หรือ FALSE ได้ ยกตัวอย่าง A10=100 คือ logical expression เช่น ถ้าค่าในเซลล์ A10 เป็น 100 แล้ว logical_test เป็น TRUE มิฉะนั้น logical_test จะเป็น FALSE อาร์กิวเมนต์นี้สามารถใช้ ตัวดำเนินการคำนวณเปรียบเทียบ ใด
value_if_true คือค่าที่ถูกส่งกลับ ถ้า logical_test เป็น TRUE ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอาร์กิวเมนต์นี้คือสายอักขระ "Within budget" และ logical_test อาร์กิวเมนต์หาค่าเป็น TRUE ดังนั้นฟังก์ชัน IF แสดงข้อความ "Within budget" ถ้า logical_test เป็น TRUE และ value_if_true ไม่ใส่ค่าอะไรไว้ อาร์กิวเมนต์นี้จะกลับเป็น 0 (ศูนย์) การแสดงคำว่า TRUE ให้ใช้ค่าตรรกะ TRUE สำหรับอาร์กิวเมนต์นี้ value_if_true สามารถเป็นสูตรอื่นได้
value_if_false เป็นค่าที่ถูกส่งกลับถ้า logical_test เป็น FALSE ตัวอย่างเช่น ถ้าอาร์กิวเมนต์เป็นสายอักขระข้อความ "Over budget" และ logical_test อาร์กิวเมนต์หาค่าเป็น FALSE ดังนั้นฟังก์ชัน IF แสดงข้อความ "Over budget" ถ้า logical_test เป็น FALSE และ value_if_false ถูกละไว้ (นั่นคือไม่มีการคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคหลังจาก value_if_true) ดังนั้นนำค่าตรรกะ FALSE กลับมาถ้า logical_test เป็น FALSE และ value_if_false ไม่ใส่ค่าอะไรไว้ (นั่นคือหลังจาก value_if_true มีการคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคตามด้วยวงเล็บปิด) ดังนั้นค่าจะกลับเป็น 0 (ศูนย์) value_if_false สามารถเป็นสูตรอื่นได้
หมายเหตุ
· อาร์กิวเมนต์ของ value_if_true และ value_if_false บรรจุฟังก์ชัน IF ซ้อนกันได้สูงสุด 7 ชั้นเพื่อทำให้การทดสอบมีความละเอียดยิ่งขึ้น ให้ดูฟังก์ชันชั้นสุดท้ายในตัวอย่างต่อไปนี้เมื่อมีการหาค่าอาร์กิวเมนต์ value_if_true และ value_if_false ฟังก์ชัน IF จะส่งกลับค่ามาโดยคำสั่งเหล่านั้นถ้าอาร์กิวเมนต์ตัวใดตัวหนึ่งในฟังก์ชัน IF เป็น อาร์เรย์ ทุกองค์ประกอบของอาร์เรย์จะถูกหาค่าเมื่อมีการประมวลผลคำสั่ง IFMicrosoft Excel มีฟังก์ชันเพิ่มเติมสำหรับใช้วิเคราะห์ข้อมูลตามเงื่อนไข ตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการนับจำนวนสายอักขระข้อความหรือตัวเลขที่มีอยู่ภายในช่วงเซลล์ ให้ใช้ฟังก์ชันแผ่นงาน COUNTIF เมื่อต้องการคำนวณค่า เมื่อต้องการคำนวณผลรวมของสายอักขระข้อความหรือตัวเลขที่อยู่ภายในช่วงเซลล์ ให้ใช้ฟังก์ชันแผ่นงาน SUMIF ในการคำนวณค่า โดยเรียนรู้ เกี่ยวกับการคำนวณค่าตามเงื่อนไข
ตัวอย่าง 1
หากคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้ในกระดาษคำนวณว่างเปล่าจะทำให้อ่านตัวอย่างได้เข้าใจยิ่งขึ้น
|
|
ตัวอย่าง 2
หากคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้ในกระดาษคำนวณว่างเปล่าจะทำให้อ่านตัวอย่างได้เข้าใจยิ่งขึ้น
|
|
ตัวอย่างที่ 3
หากคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้ในกระดาษคำนวณว่างเปล่าจะทำให้อ่านตัวอย่างได้เข้าใจยิ่งขึ้น
|
|
ในตัวอย่างก่อนหน้านี้ ประโยคคำสั่ง IF ประโยคที่สองยังเป็นอาร์กิวเมนต์ value_if_false ของประโยคคำสั่ง IF ประโยคแรก ในทำนองเดียวกัน ประโยคคำสั่ง IF ประโยคตัวที่สามเป็นอาร์กิวเมนต์ value_if_false ของประโยคคำสั่ง IF ประโยคที่สอง เช่น ถ้า logical_test ตัวแรก (Average>89) เป็น TRUEจะส่งกลับค่า "A" ถ้า logical_test ตัวแรกเป็น FALSE จะคำนวณประโยคคำสั่ง IF ประโยคที่สอง และอื่นๆ
เกรดแบบตัวอักษรที่กำหนดให้กับค่าตัวเลขคะแนนต่างๆ พิจารณาจากระดับเงื่อนไขต่อไปนี้
ถ้าคะแนนเท่ากับ | แล้วส่งกลับค่า |
มากกว่า 89 | A |
80 ถึง 89 | B |
70 ถึง 79 | C |
60 ถึง 69 | D |
น้อยกว่า 60 | F |
SUMIF(range,criteria,sum_range)
range คือช่วงของเซลล์ที่คุณต้องการประเมิน
criteria คือเงื่อนไขหรือเกณฑ์ซึ่งอยู่ในรูปแบบตัวเลข นิพจน์ หรือข้อความ ซึ่งจะถูกใช้เป็นตัวบ่งบอกว่าเซลล์ใดจะถูกรวมเข้า ตัวอย่างเช่น criteria อาจแสดงเป็น 32, "32", ">32", "apples"
Sum_range คือเซลล์จริงที่จะหาผลรวม
หมายเหตุ
· เซลล์ต่างๆ ใน sum_range จะหาผลรวมออกมาถ้าเซลล์ที่สอดคล้องในช่วงนั้นเป็นไปตามเงื่อนไขถ้า sum_range ถูกละไว้ เซลล์ในช่วงนั้นก็จะถูกหาผลรวมออกมาMicrosoft Excel มีฟังก์ชันเพิ่มเติมที่สามารถใช้วิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นไปตามเงื่อนไข ตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการนับจำนวนที่ซ้ำกันของสายข้อความหรือตัวเลขภายในช่วงเซลล์ ให้ใช้ฟังก์ชัน COUNTIF ถ้าต้องการให้สูตรส่งกลับค่าหนึ่งในสองค่าขึ้นอยู่กับเงื่อนไข เช่น โบนัสการขายที่ขึ้นอยู่กับยอดขายจะใช้ฟังก์ชัน IF
ตัวอย่าง
หากคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้ในกระดาษคำนวณว่างเปล่าจะทำให้อ่านตัวอย่างได้เข้าใจยิ่งขึ้น
|
|
MAX(number1,number2,...)
number1, number2, ... คือตัวเลข 1 ถึง 30 ตัวเลขที่ต้องการค้นหาค่ามากสุด
หมายเหตุ
· คุณสามารถระบุอาร์กิวเมนต์ที่เป็นตัวเลข เซลล์ว่างเปล่า ค่าตรรกะ หรือข้อความที่ใช้แทนตัวเลขได้ ซึ่งอาร์กิวเมนต์ที่มีค่าข้อผิดพลาดหรือข้อความที่ไม่สามารถแสดงในรูปแบบตัวเลขได้จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นถ้าอาร์กิวเมนต์เป็นอาร์เรย์หรือการอ้างอิง จะใช้เพียงตัวเลขในอาร์เรย์หรือการอ้างอิงเท่านั้น จะละเว้นเซลล์ว่าง ค่าตรรกะ หรือข้อความในอาร์เรย์ ถ้าค่าตรรกะ และข้อความไม่มีการละเว้น ให้ใช้ฟังก์ชัน MAXA แทนถ้าไม่มีอาร์กิวเมนต์ตัวใดเป็นตัวเลข ฟังก์ชัน MAX จะส่งกลับค่า 0 (ศูนย์)
ตัวอย่าง
หากคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้ในกระดาษคำนวณว่างเปล่าจะทำให้อ่านตัวอย่างได้เข้าใจยิ่งขึ้น
|
|
MIN(number1,number2,...)
number1, number2, ... คือตัวเลข 1 ถึง 30 ตัวเลขที่ต้องการค้นหาค่าน้อยสุด
หมายเหตุ
· คุณสามารถระบุอาร์กิวเมนต์ที่เป็นตัวเลข เซลล์ว่างเปล่า ค่าตรรกะ หรือข้อความที่ใช้แทนตัวเลขได้ ซึ่งอาร์กิวเมนต์ที่มีค่าข้อผิดพลาดหรือข้อความที่ไม่สามารถแสดงในรูปแบบตัวเลขได้จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นถ้าอาร์กิวเมนต์เป็นอาร์เรย์หรือการอ้างอิง ตัวเลขในอาร์เรย์หรือการอ้างอิงเท่านั้นที่ถูกนำมาใช้ เซลล์ว่าง ค่าตรรกะ หรือข้อความในอาร์เรย์หรือการอ้างอิงจะถูกละเว้น ถ้าค่าตรรกะ และข้อความในอาร์เรย์หรือการอ้างอิงไม่ควรถูกละเว้น ให้ใช้ฟังก์ชัน MINA แทนถ้าไม่มีตัวเลขอยู่ในอาร์กิวเมนต์ ฟังก์ชัน MIN จะส่งกลับค่า 0
ตัวอย่าง
หากคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้ในกระดาษคำนวณว่างเปล่าจะทำให้อ่านตัวอย่างได้เข้าใจยิ่งขึ้น
|
|
BAHTTEXT(จำนวน)
จำนวน คือตัวเลขที่คุณต้องการแปลงเป็นข้อความ หรือจะเป็นการอ้างอิงไปยังเซลล์ที่มีตัวเลขอยู่ หรือเป็นสูตรที่ประเมินค่าตัวเลขก็ได้
ตัวอย่าง
หากคัดลอกตัวอย่างไปใส่ไว้ในกระดาษคำนวณว่างเปล่าจะทำให้อ่านตัวอย่างได้เข้าใจยิ่งขึ้น
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น